RSS

9/13/2008

ข้อคิดเพื่อครอบครัว

ข้อคิดเพื่อครอบครัว อ.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
~ข้อความดีๆ จาก forward mail ค่ะ

1. ข้อสำคัญของการเลือกคู่ คือ เราไม่ได้เลือกใครเพราะเขาสมบูรณ์แบบ แต่เพราะเขามีจุดดีหลัก ๆที่เราประทับใจ ส่วนจุดอ่อนด้อยนั้นเป็นส่วนปลีกย่อยที่เราสามารถยอมรับได้อย่างไม่ยากเย็น

2. ในความเป็นจริง ไม่มีใครดีเลิศสมบูรณ์แบบ ถ้าเรามองไม่เห็นจุดอ่อนด้อยของเขาเลย นั่นแสดงว่า เรายังไม่รู้จักเขาอย่างแท้จริง หรือไม่ เราก็กำลังตกอยู่ในความหลงใหล ..จนไม่ลืมหูลืมตา

3. การแต่งงาน คือ การผูกพันกันด้วยหัวใจ ไม่ใช่เพียงร่างกายและยิ่งไม่ใช่การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์เชิงธุรกิจ

4. คนที่แต่งงานเพราะความเหงา จะยิ่งเหงาหนักเป็น 2 เท่า แต่งงานแบบคลุมถุงชน ก็มีแนวโน้มว่า ชีวิตจะมืดมนไปอีกนาน

5. ความสุข ความทุกข์ ครึ่งหนึ่งอยู่ที่ชีวิตหลังแต่งงาน คิดให้ดีก่อนที่จะเลือกใคร มาเป็นคู่ชีวิต...

6. บ้านจะเล็กหรือใหญ่ ไม่สำคัญ แต่ “ความรัก” ต้องใหญ่ที่สุดในบ้าน

7. คำว่า “รัก” พูดมากไป ย่อมดีกว่า พูดน้อยไป...

8. เมื่อเรา ทำผิด....จง “ขอโทษ” เมื่อเขา ทำผิด ....จง “ให้อภัย”

9. ชีวิตแต่งงาน คือ ชีวิตแห่งการปรับตัว ถ้าไม่คิดจะปรับตัวเข้าหาใคร อยู่เป็นโสดไป ก็ดีกว่า...

10. ยอมเป็นผู้แพ้ ดีกว่า เป็นผู้ชนะที่ยืนอยู่ท่ามกลางซากชีวิตสมรสที่หักพัง...

11. “แก้ตัว” .... ช่วยอะไรไม่ได้ “แก้ไข” .......ช่วยได้ทุกอย่าง...

12. เมื่อมีปัญหาในครอบครัว อย่าลืมใช้ความรักและหลักเหตุผลเป็นกรรมการตัดสิน ไม่ใช้ อารมณ์ หรืออาวุธ..

13. งอนแต่พองาม...ก็งามดี แต่งอนเกินพอดี ก็เกินงาม...

14. ต่างคนต่างแข็ง ไม่มีใครยอมอ่อนข้อต่อกัน...บ้าน...ก็คงไม่ต่างอะไรกับสนามรบ

15. เมื่อสามีอ่อนแอ ไม่รับบทบาทผู้นำ ความสับสนวุ่นวาย ก็ตามมา หรือเมื่อภรรยา พยายามแย่งบทบาทการนำจากสามี ชีวิตครอบครัวก็รอดยาก

16. ความไม่ซื่อสัตย์ ต่อกันเพียงครั้งเดียว ก็อาจสั่นคลอนความไว้วางใจที่มีให้กันได้ ท้ายที่สุด ชีวิตคู่ก็จบลงด้วยความแตกร้าว ยากเยียวยา

17. ความเห็นแก่ตัว สนใจแต่ปัญหา อารมณ์ ความรู้สึก และความสนใจของตัวเองชีวิตคู่ ก็อยู่ด้วยกันยาก

18. ก่อหนี้สินจนล้นพ้นตัว ครอบครัวก็มีแต่ความตึงเครียดทุกเช้าเย็น

19. เมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด หรือทั้งสองฝ่ายเรียกร้องและคาดหวังจากกันและกันมากเกินพอดี ปัญหาก็จะมีเรื่อยไป…ไม่สิ้นสุด

20. ควรตระหนักว่า...ภรรยา ไม่ใช่ผู้ปรนนิบัติรับใช้สามี แท้จริงแล้ว สามีภรรยา ควรเอาใจใส่ดูแลกันและกันอย่างดีที่สุด...ย่อมดีกว่า

21. ไม่มีอะไร ทำให้ภรรยาปวดร้าวใจ มากเท่าการค้นพบว่า สามีมีหญิงอื่นในหัวใจ

22. รักเดียว ...ใจเดียว ไม่ใช่เรื่องเชย แต่เป็นเรื่องดีที่สามีทุกคนในโลกควรกระทำ

23. การขอโทษภรรยาเมื่อทำผิด ไม่ใช่เรื่องเสียศักดิ์ศรี แต่เป็นศักดิ์ศรีของสามี...ที่แท้จริง

24. ไม่ควรมองว่า งานดูแลบ้าน เป็นความรับผิดชอบของภรรยา สามีควรมีส่วนช่วยแบ่งเบาภาระอย่างสุดความสามารถเสมอ

25. สรีระรูปร่างหน้าตา ที่เปลี่ยนไปของภรรยา ไม่ควรเป็นเหตุให้ความรักในหัวใจของสามีจืดจางลงแม้แต่น้อย

26. ควรระลึกอยู่เสมอว่า ...การนำครอบครัวนั้น คือ การนำโดยเห็นผลประโยชน์ของครอบครัวเป็นหลักไม่ใช่ เพื่อความสุข ความพึงพอใจของตนเอง

27. ภรรยาที่ดี ควรสนับสนุนสามีให้ก้าวไกลในชีวิต ไม่ใช่ดึงรั้งให้หยุดอยู่กับที่ หรือถอยหลัง

28. ภรรยาที่ดี ไม่ควรใช้วิธีการบีบบังคับทั้งทางตรงและทางอ้อมเพื่อให้สามีตัดสินใจตามความคิดของตน

29. ในสถานการณ์หน้าสิ่ว หน้าขวาน สามีต้องการภรรยาที่สงบนิ่ง ช่วยกันคิดหาทางออก ไม่ใช่ภรรยาที่เอาแต่โวยวาย ตีโพย ตีพายหรือร้องไห้ฟูมฟาย โดยปล่อยให้เขาต้องแบกภาระหนักอึ้งเพียงลำพัง

30. การไม่ตีลูก เพราะกลัวลูกเจ็บ เมื่อยังเป็นเด็ก กลับจะทำให้เขาเจ็บปวดยิ่งกว่า เมื่อเขาโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่สร้างปัญหา และถูกลงโทษ... จากสังคม

31. ช่องว่างระหว่างวัย...ระหว่างรุ่น...ย่อมไม่มี ถ้าพ่อแม่ตระหนักถึงความสำคัญ และใช้ความพยายามที่มากพอ วิธีที่ดีที่สุด คือ พ่อแม่ควรวางแผนเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดกับลูก ไม่ใช่ตามแก้ปัญหาเมื่อเกิดขึ้นแล้ว

32. พึงตระหนักว่า ลูกไม่ใช่ดินน้ำมัน ที่พ่อแม่ อยากจะปั้นให้เขาเป็นอะไรก็ได้ตามใจชอบ เขาย่อมมีจิตใจที่มีเอกลักษณ์แห่งความชอบ ความสนใจที่แตกต่างไปจากพ่อแม่ได้เสมอ

ความรักกับความผูกพัน

วันนี้..เราอาจรู้สึกผูกพันต่อสิ่งหนึ่ง
จนคิดว่าเราขาดไม่ได้..
แต่เวลาจะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป..
สักวันเราจะรู้ว่า..สิ่งที่เราผูกพันในวันนี้.
เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่เติมชีวิตเรา
ไม่ใช่..ทั้งหมดของชีวิตเรา...

วันหนึ่ง..หากเรามีโอกาสได้เจอสิ่งที่ถูกใจสิ่งใหม่
ที่เราคิดว่าเราพึงใจ..ปรารถนา..ต้องการ..ขาดไม่ได้
เราก็จะเริ่มผูกพันกับสิ่งใหม่ได้ในเวลาไม่นานนัก...






เมื่อเวลาหนึ่งผ่านไป จะสอนเราได้เองว่า..
ความผูกพันกับสิ่งใด ๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง
จะเป็นความสุขในช่วงเวลานั้น ๆ
อย่าได้ไปยึดติด อย่าได้ไปใช้ชีวิตทั้งชีวิตหลุ่มหลง...
คิดเสียว่า.เราโชคดี.ที่มีโอกาสได้ผูกพันกับสิ่งที่เรารัก





ความผูกพัน..ก็เหมือนกับความรัก..
หรืออาจจะเป็นผลพวงที่มาจากความรัก
หากเรารักใครคนใดคนหนึ่งมาก
เราก็จะรู้สึกว่าผูกพันมาก
แต่ความผูกพันที่ว่า.ไม่ได้หมายถึงการหยุดตัวเอง
ไว้กับสิ่งนั้น..เพราะคนทุกคน ย่อมผูกพันกับหลายๆ สิ่ง
เปรียบเสมือนเรามีแก้วน้ำอยู่หนึ่งใบ
ในยามเช้า..เราอาจต้องใช้แก้วใบนี้ดื่มนม
พออากาศร้อนหน่อย..เราอาจต้องการน้ำเย็น ๆ
บางครั้งที่เราไม่สบาย..เราอาจต้องการน้ำอุ่น
ใจเราก็เหมือนกับแก้วน้ำ..ต้องเติมสิ่งต่าง ๆ
ในเวลาที่แตกต่างกัน...ตามความเหมาะสม..
หากเราเติมน้ำเย็นลงไปในแก้วน้ำ
แล้วเติมน้ำร้อนลงไปเราเองในทันที.ในแก้วใบเดียวกัน..
เราก็จะพบว่า..แก้วใบนั้น..ก็จะร้าว..แล้วเริ่มแตก

ซึ่งก็เหมือนกับใจเรา..
ความผูกพันต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดในช่วงเวลาหนึ่ง..ไม่ผิด
ถ้าเราค่อย ๆ ปรับใจ ปรับตัวของ
ให้กลับคืนในเวลาที่ควร
เพราะอย่างน้อยที่สุด..เราก็มีโอกาส..ได้ผูกพัน...
ซึ่งก็เหมือนเราได้มีโอกาส..ได้รัก นั่นเอง

ถ้าคุณมีความสุขที่เห็นเค้าเดินกับคนอื่น
คือ........ความรัก

ถ้าคุณเศร้า เหงา คิดถึงเค้าอยากเจอ พูดคุย
คือ.........ความรัก


ถ้าคุณร้อนรนที่เค้าอยู่กับใคร ๆ ที่ไม่ใช่คุณ
คือ.........ความใคร่ อยากเก็บไว้เป็นเจ้าของคนเดียว

ถ้าคุณเมามาย เค้าลูบหลังไหล่ ดูแล
คือ.........ความรักที่บริสุทธิใจ


ถ้าคุณเมามาย เค้ากอดและสัมผัสร่างกาย
คือ..........ความใคร่จากเค้าของคุณ

ถ้าคุณเข้าหา แต่เค้าหนี...
คือ......... ความใคร่ ที่หมดเยื่อใยแล้ว

ถ้าคุณหนี แต่เค้าวิ่งตามมา
คือ..........ความรักที่ยังไม่มีจุดจบ

ถ้าคุณร้องให้ ให้กับคนที่ไม่มีเยื่อใยในตัวคุณ
คุณคือคนโง่ และบ้า อย่างน่าอาย


แต่ถ้าคุณพอใจ...จงรัก และ มอบความรัก
ให้กับเค้า แม้มันจะไม่กลับมาหาคุณก็ตาม
จงดีใจที่ได้รักซะวันนี้..
ดีกว่าที่จะมานั่งเสียใจในวันหน้า

จงภูมิใจที่มีความใคร่ เสน่หา
เพราะมันจะไม่ย้อนกลับมาหาอีกต่อไป....


5 ข้อความดีๆมาจาก คุณโน้ต อุดม

จาก Forwardmail ค่ะ

-->ความรู้มากๆๆ บางทีเหมือนกำแพงอิฐที่เรียงตัวสูง
ความรู้สูง กำแพงสูง ความรู้รอบด้าน ก็เหมือนกำแพงสูงรอบตัว
บางครั้งมันอาจทำให้มองออกไปไม่เห็นอะไร
นอกจากอิฐที่ตนเอง ก่อขึ้นมา




-->กลิ่นของความรัก ก็เช่นเดียวกับห้องน้ำ
เข้าไปแรกๆๆจะรู้สึกว่าได้กลิ่น
อยู่ในนั้นนานๆๆ ไปจะเคยชิน จนลืมว่ามีกลิ่นนั้นอยู่
จนกว่าจะออกมาจากบริเวณนั้น และกลับเข้าไปใหม่


-->ถ้าเรารักใครซักคน
เราควรเปิดโอกาสให้เค้าได้ทำผิดหลายๆๆครั้ง
เพราะเราเองก็ต้องการโอกาสอย่างนั้นเช่นกัน



-->อย่าบอกเลยว่าเป็นคนดี
ความหยิ่งยโส ก็มีอยู่ในคนถ่อมตัว
ครูที่สอนนักเรียน ก็มีความโง่ ซ่อนอยู่
ความขลาดกลัว ก็มีอยู่ในนักมวยแชมป์โลก
ความเบื่อหน่าย ก็มีอยู่ในพนักงานที่ต้อนรับที่กระตือรือร้น
ความเห็นแก่ตัว
ก็มีอยู่ภายในใจของนักสังคมสงเคราะห์
มันอยู่คู่กัน รอวันปรากฏตัวออกมา


-->ถ้าสันดานห่วยๆๆ มันเป็นกระดาษ
เรามีแค่หินทับกระดาษคนละก้อน
ลมกิเลสพัดมา ก็ขึ้นกับว่าก้อนหินของใครก้อนใหญ่พอที่ทับมันไว้
ไม่ให้ปลิวเพ่นพ่านเท่านั้นเอง..


..