RSS

9/12/2009

เหนื่อยเพราะวิ่งตาม



เคยมีความรู้สึกเหนื่อยหัวใจที่ต้องวิ่งตามใครบ้างไหม

เป็นคนแสนดี ทุ่มเททำทุกอย่าง

แต่ก็ไม่เคยมีค่าพอให้เขาสนใจ

จะทำสักเท่าไหร่ เขาก็ไม่เคยมองเห็น

อย่าฝืนอีกต่อไปเลย

ยังไงซะ..ก็เป็นเราที่เสียใจ

เหนื่อยเพราะวิ่งตามน่ะ

หยุดได้แล้ว หยุดวิ่ง

เมื่อเหนื่อยล้าเราก็หยุดพัก

เมื่อความรักมันทำให้เหนื่อย

นั่งพักสักนิด แล้วมองดูตัวเอง..

คิดถึงตัวเอง แล้วเราจะพบว่า

มีสิ่งดีๆอีกตั้งหลายอย่างที่ยังรอให้เราทำ

คนที่ทำให้เราเสียน้ำตา ไม่คู่ควรได้รับความรักจากเราหรอก

เราสำคัญกว่านั้น

ถ้าอยากรู้ว่าตัวเองสำคัญแค่ไหน ให้ไปถามคุณพ่อกับคุณแม่ของเราดู : )
.

3 comments:

Anonymous said...

ตามใจเขา จนเราเหนื่อย
เอาใจเขา จนเราท้อ

เพราะทั้งหมด ที่ทำไป เพียงแค่อยากให้เขารักเรา

พี่คนนึงบอกว่า
ลองใหม่ อย่าทำอะไรเพื่อให้เขารักเรา
ให้เราทำเพราะว่าเรารักเขา

สูตรนี้ พวกเราได้รับมาตั้งแต่เกิด จนโตป่านนี้
แต่กลับไม่เคยนึกถึง หรือป่าว

เบน

Anonymous said...

ในชีวิตคนเรามีผู้คนมากมายที่ผ่านเข้ามาให้รู้จักมักคุ้น
แต่ในผู้คนมากมายเหล่านั้น


อย่างน้อยคงต้องมีใครบางคนที่ทำให้เรารู้สึก “ไม่ธรรมดา”

ที่จะนึกถึง เรียกว่าเป็น “ความพิเศษ”

ที่เราจะยกเว้นเอาไว้จากความปกติทั่วไปของจิตใจ

ก็ในเมื่อคำว่า “พิเศษ” หมายถึงความจำเพาะ ความแปลกแยก ความดีงาม ความอบอุ่นในหัวใจ

กระนั้นทำไมเราไม่ปฏิบัติต่อเขาให้ตรงกับที่ใจคิด


ให้ “ความรู้สึกดีดี” จากจิตใจที่ดีดี

ให้ “ความอาทรถึง” จากจิตใจที่นึกถึง

ให้ “ความห่วง” จากจิตใจที่เป็นห่วง

ให้ไปเถอะ ให้ไปอย่างดีดี แต่มี “สติ”

ให้ไปเถอะ ให้ไปอย่างอบอุ่น แต่ไม่ “คุกรุ่น”

ให้ไปเลย ให้ไปเท่าไหร่ก็ได้ แต่เมื่อให้ไปแล้วต้อง “ไม่ร้อนรุ่มกลัดกลุ้ม”



และหากเมื่อใดจิตใจอาจระส่ำระสาย สะดุดกับอะไรขึ้นมาบ้าง

ก็จงหยุดพักตรึกตรอง อย่าปล่อยให้พายุอารมณ์โถมพัด

“สิ่งดีดี” จนกระจัดกระจาย

เพราะ “การให้ความหมาย” ไม่ใช่ “การตั้งความหวัง”

คนสองคนให้ความหมายซึ่งกันและกัน แต่คนสองคน

“จะไม่ตั้งความหวังในกันและกัน”

เพราะการตั้งความหวังมักนำพาซึ่ง “การเรียกร้อง”

“ความอยากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ” โดยที่ไม่รู้ตัว

มันร้อนนัก หนาวนัก และไม่เป็นสุข

เราต้องไม่ลืมปรับอุณหภูมิจิตใจเอาไว้ที่องศาอุ่นๆ

หากเริ่มรู้สึกตัวว่า ความร้อนเริ่มทวีขึ้น เราต้องค่อยๆ

เดินออกมาสูดอากาศเย็น

หากตรงกันข้ามเราก็ต้องหลบเร้นจากความหนาวมาหาไอแดดเช่นกัน

และอย่าลืมว่า “ความพิเศษ”

ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นพิเศษมากหรือพิเศษสุด

หรือพิเศษอย่างยิ่งในคนคนเดียว

ทั้งเราและเขาอาจจะมีคนพิเศษในวิถีชีวิตได้หลายลักษณะ

พิเศษในเรื่องนั้น พิเศษในเรื่องนี้

ในเมื่อหัวใจเป็นของเรา

เราก็ย่อมเลือกให้ความพิเศษกับใครก็ได้ที่เราจะไม่ต้องแลกกับความทุกข์อย่างพิเศษกลับมา


จงให้ “ความพิเศษ” เป็นชีวิตชีวา

เป็นแววตาที่แจ่มใส

เป็นความห่วงใยที่เมื่อนึกถึงทีไรก็ยิ้มได้

ไม่วิ่งหนี แต่ไม่วิ่งตาม

ไม่หักห้าม แต่ไม่กระโจนใส่

ไม่เป็นน้ำตาลที่หวานอ่อนไหว

แต่เป็นความอบอุ่นในหัวใจและเอื้ออาทร

จงเป็นความแจ่มใสในอารมณ์ของตัวเอง เป็นความชุ่มชื่น สดใส เช่นสายน้ำ

เป็นสีสันงดงามเช่นมวลผกา เป็นสีเขียวของใบไม้

ที่เย็นที่ตาและที่ใจ

และที่ตรงนี้ จะอีกนานเท่าใด ไม่ว่า “คนพิเศษ” คนนั้นจะอยู่ใกล้หรือต้องจากกันไกล

“ความพิเศษ”นั้นก็จะคงอยู่อย่างมีคุณค่า ณ ที่เดิม ที่ซึ่งใจข้างซ้ายตรงกัน

::ถ้าเรารู้สึกว่าเค้าคือคนพิเศษก็ทำไปเถอะค่ะ แค่เราได้ทำก็สุขที่ใจเราแล้ว ทำโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนเราก็จะไม่รู้สึกเหนื่อย

Anonymous said...

แวะมาทีไร ก็จะได้ อะไรโดนใจทุกที

ว่าแต่ จะฝากเรื่อง ว่าควรมั้ย

ที่จะไปทำลายกำแพงของใคร
หรือว่าจะรอต่อไปให้เขาเปิดประตู

คิดว่า น่าจะได้ข้อคิดอะไรดี ๆ จากที่นี่ จากคุณๆ

เบน